งานออกแบบ ATTA Gallery และข้อคิดงานออกแบบ

งานออกแบบศิลปะที่อยู่คู่ในอารมณ์ส่วนลึกของมนุษย์มาช้านาน ก่อนที่จะมีงานออกแบบดีๆ สักชิ้น เราต้องมีการวางแผนเพื่อที่จะออกแบบ และรู้ถึงวัตถุประสงค์ของการออกแบบให้ได้ก่อน มิเช่นนั้น เราจะไม่สามารถได้งานออกแบบที่มีคุณภาพได้เลย วันนี้ทาง TCDCCONNECT จะมาแนะนำให้รู้จักกับ ATTA Gallery ว่าคืออะไร ?

ATTA Gallery มีจุดกำเนิดมาจากการรวมตัวกันของศิลปินนักออกแบบของไทยที่ชื่นชอบงานออกแบบ Art Jewelry ซึ่งได้สร้างสรรค์งานออกแบบดีๆ มาหลายชนิด ซึ่งเดี๋ยวเราจะนำงานออกแบบมาให้ทุกท่านชมดังรูปด้านล่าง

งานออกแบบศิลปะ

อัตลักษณ์ของ ATTA Gallery

ATTA Gallery เป็นพื้นที่ที่ต้องการให้ศิลปินนักออกแบบสามารถแสดงความเป็นตัวตนของตนเอง ผ่านงานผลงานการออกแบบจิวเวลรี่อาร์ตร่วมสมัย ภายในพื้นที่มีการจัดแสดงผลงานของศิลปินในสังกัด ที่มีแนวทางการออกแบบตรงกับตัวตนของแกลลอรี่ พร้อมเปิดพื้นที่อีกส่วนให้กับศิลปินนักออกแบบท่านอื่นได้แสดงผลงานร่วมกัน นอกจากแนวคิดหลักในการออกแบบที่แสดงถึงตัวตนของนักออกแบบแล้ว เธอยังให้ความสำคัญกับแนวคิดในการใช้วัสดุที่หลากหลาย เพราะงานออกแบบจิวเวลรี่อาร์ตร่วมสมัยไม่จำเป็นต้องจบที่โลหะและอัญมณีที่มีมูลค่าสูงเสมอไป แต่อาจเป็นวัสดุอื่นๆ เช่น งานปักบนผ้า ไม้ ถ่าน ปูน หรือแม้กระทั่งขยะพลาสติกจากท้องทะเล ฯลฯ เพราะ “คุณค่า” ของงานออกแบบไม่ได้อยู่ที่วัสดุเพียงอย่างเดียว แต่คือ “เรื่องราว” ที่ถูกถ่ายทอดลงบนชิ้นงานแต่ละชิ้น

งานออกแบบให้ตรง Target

แม้ว่ากลุ่มเป้าหมายหลักในปัจจุบันจะเป็นกลุ่มครอบครัวชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ในเมืองไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลักแล้ว แต่อตินุชมุ่งหวังที่จะขยายตลาดสู่กลุ่มลูกค้าคนไทยมากขึ้น เพราะปัจจุบันมีคนไทยส่วนน้อยเท่านั้นที่เข้าใจแนวคิดและเห็นคุณค่าที่ซ่อนอยู่ในงานออกแบบจิวเวลรี่อาร์ตร่วมสมัย เธอเลือกใช้สังคมออนไลน์อย่าง Facebook และ Instagram เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย โดยมีเว็บไซท์ ATTA Gallery เป็นตัวเชื่อมข้อมูลข่าวสารของแกลเลอรี่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ อตินุชพยายามนำผลงานจาก ATTA Gallery เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่น Silom/Charoen Krung Gallery Hopping Night เพื่อให้คนทั่วไปเข้าถึงงานจิวเวลรี่อาร์ตร่วมสมัยมากขึ้น

ข้อคิดงานออกแบบในการทำธุรกิจ

ข้อคิดงานออกแบบในการทำธุรกิจ

ช่วงสุดท้ายเธอมีเกร็ดความรู้ดีๆ เกี่ยวกับการทำธุรกิจ เธอกล่าวว่าทุกอย่างควรเริ่มต้นจากการลงมือทำด้วยใจรัก (Passion) พร้อมตั้งมั่นที่จะทำมันให้สำเร็จ (Commitment) และท้ายที่สุดทุกคนควรศรัทธา (Faith) กับสิ่งที่ทำ
ถึงงานออกแบบ Jewelry สมัยใหม่ อาจจะยังดู Indy เกินไปสำหรับคนไทย แต่ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เธอพยายามที่จะเผยแพร่แนวคิดทางการออกแบบผ่านการแสดงผลงานในแกลเลอรี่ ผ่านการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัย และเริ่มนำแกลเลอรี่เดินทางไปตามอีเว้นท์ต่างๆ เพื่อให้คนไทยเห็นคุณค่าของงานออกแบบที่ซ่อนอยู่ภายในชิ้นงานเหมือนดั่งเช่นชาวต่างชาติที่ไม่ได้มองจิวเวลรี่เพียงแค่เครื่องประดับแต่จะต้องมีเรื่องราวงานออกแบบที่สะท้อนถึงตัวตนของผู้สวมใส่ด้วย


ขอขอบคุณที่มา : http://www.tcdcconnect.com/

งานออกแบบ กำลังจะครองโลกแห่งเทคโนโลยี !!

งานออกแบบ กำลังจะครองโลกแห่งเทคโนโลยี
งานออกแบบ กำลังจะครองโลกแห่งเทคโนโลยี

งานออกแบบในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา หลายคนอาจจะสังเกตได้ถึงจำนวนตัวเลขของบริษัทด้านเทคโนโลยี ที่มีการรับบุคลากรในแผนกที่เกี่ยวข้องกับงานออกแบบมาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การที่ Google โดดเข้ามาเล่นในสนามของงานออกแบบอุตสาหกรรม หรือการที่ Facebook เปิดตัวเป็นเจ้าของซอฟท์แวร์ และเข้าซื้อกิจการบริษัทดิจิทัลดีไซน์อย่าง Sofa (บริษัทออกแบบระบบปฏิสัมพันธ์สำหรับเว็บไซต์โดย Facebook ให้เหตุผลในการเทคโอเวอร์ครั้งนั้นว่า เพื่อให้ Sofa เข้ามาช่วยพัฒนาออกแบบผลิตภัณฑ์หน้าเว็บให้สวยงามและใช้งานง่ายมากขึ้น นอกจากนั้น Facebook ยังขอเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัท Teehan+Lax ในปี 2015 เพื่อให้บริษัทจากโตรอนโต้เจ้านี้เข้ามาช่วยพัฒนา UX ของ Facebook อย่างเต็มรูปแบบด้วย

งานออกแบบของการร่วมมือระหว่าง Facebook กับ Acquires Sofa
การร่วมมือกันระหว่างโลกของธุรกิจเทคโนโลยีกับโลกของงานออกแบบนั้น กลายเป็นประเด็นที่กว้างขวางมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเราจะเห็นว่าทางออกของปัญหาสารพัด (ที่เกิดขึ้นกับบริษัทด้านเทคโนโลยี)กลับไม่ได้อยู่ที่ความล้ำหน้าของนวัตกรรมที่เร็วกว่า หรือระบบปฏิบัติการที่แรงกว่าอีกต่อไป  แต่มันกลายเป็นเรื่องของ "ดีไซน์" ที่ได้เข้ามาช่วยทำให้ "บริการทางเทคโนโลยี" ต่างๆ นั้นปรากฏแก่สายตาผู้บริโภคได้อย่างชัดเจนขึ้นกว่าในอดีต

เริ่มต้นงานออกแบบด้วยดีไซน์ เพื่อลงท้ายในความสำเร็จ

จากเดิมที่ธุรกิจเทคโนโลยีมองการออกแบบว่าเป็นเหมือน "สเปรย์" ที่เอาไว้แต่งหน้าทาปากในตอนท้ายของการผลิต แต่ในวันนี้ทุกธุรกิจกลับต้องให้ความสำคัญกับการ "บูรณาการ" งานออกแบบเข้ากับทุกขั้นตอนของการผลิตเราลองมาดูกรณีสุดคลาสสิกของเก้าอี้ Michael Thonet No.141  ที่ออกแบบมาตั้งแต่ปีค..1859 ตั้งแต่ยุคแรกเริ่มเก้าอี้ตัวนี้ถูกออกแบบให้สามารถแพ็คลงตู้คอนเทนเนอร์ (ขนาด เมตรได้ถึง 36 ตัว ถือเป็นการดีไซน์เฟอร์นิเจอร์แนว Flat-pack ถอดประกอบได้ในยุคแรกๆ ที่ผลิตและขนส่งได้ด้วยต้นทุนต่ำ สามารถตั้งฐานการผลิตในยุโรปตะวันออกและส่งขายทั่วโลกได้ไกลถึงกรุงนิวยอร์กในราคาที่ถูกแสนถูก

Michael Thonet No.141

ตั้งแต่ปี 1859 เป็นต้นมาเก้าอี้ No.141 นี้มียอดขายรวมกว่า 50 ล้านตัว และนี่ก็คือตัวอย่างง่ายๆ ที่แสดงให้เห็นว่าการออกแบบนั้นสามารถนำมาใช้สร้างความได้เปรียบในธุรกิจได้ในทุกขั้นตอนของการผลิต  อย่างไรก็ดีเราต้องไม่ลืมว่างานออกแบบที่ยอดเยี่ยมนั้นก็ต้องอาศัยกลยุทธ์เชิงธุรกิจและงานวิศวกรรมที่ดีมาคอยสนับสนุนด้วย  สามส่วนนี้คือพื้นฐานของการก้าวไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว

 Michael Thonet No.141


เก้าอี้ No.141

เรื่องง่ายๆ ที่งานออกแบบไม่ง่ายของคลิปหนีบกระดาษ

Matt Manos

แมท มาโนส (Matt Manos) ผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท Verynice บริษัทออกแบบและสร้างสรรค์ระบบ UX: User Experience ในลอสแองเจอลิส ทำงานให้กับสตาร์ทอัพมากกว่า 100 แห่ง ได้ช่วยเหลือแบรนด์หน้าใหม่ในการสร้างภาพลักษณ์และการใช้งานบนหน้าเว็บ ที่ไม่ได้มีดีแค่สวยแต่ยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ดีอีกด้วย  แมทเคยให้ความเห็นว่า สำหรับเขาแล้วงานออกแบบที่สมบูรณ์แบบที่สุดก็คือ 'คลิปหนีบกระดาษเพราะความเรียบง่ายและฟังก์ชั่นการใช้งานของมันนั้นลงตัวมาก ไม่ว่าใครหยิบมาชิ้นหนึ่งก็จะใช้งานเป็นได้ทันที ไม่ต่างจากการออกแบบเทคโนโลยีในทุกวันนี้ที่ก็ควรทำหน้าที่ได้เด็ดขาดไม่ต่างจากคลิปหนีบกระดาษข้างต้น

UX: User Experience

แมทกล่าวว่าเหตุผลที่บริษัทด้านเทคโนโลยีควรให้ความสำคัญกับงานออกแบบนั้นไม่ใช่แค่ในเรื่องของความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่เพราะงานออกแบบจะช่วยทำให้สินค้าหรือบริการหนึ่งๆ โดดเด่นขึ้นได้ 'ท่ามกลางสินค้าประเภทเดียวกันที่สำคัญมุมมองของนักออกแบบยังมีส่วนช่วยในกระบวนการพัฒนาการใช้งาน ที่เมื่อก่อนเจ้าของธุรกิจอาจจะมีคำถามว่า "แล้วผู้ใช้จะใช้สินค้าเราอย่างไรแต่นักออกแบบนี่แหละจะคิดให้คุณได้ว่า "ผู้ใช้จะใช้สินค้าของเราได้อย่างไรในทุกๆ วัน"

ก้าวแรกของสตาร์ทอัพ

ก้าวแรกของสตาร์ทอัพ ต้องเดินไปพร้อมกับนักออกแบบ

บ่อยครั้งที่เหล่าสตาร์ทอัพเชื่อว่าเรื่องของ UX หรืองานออกแบบนั้นไม่ใช่เรื่องที่สำคัญเท่ากับการทำระบบซอฟต์แวร์  แต่การแข่งขันอันดุเดือดของผู้เล่นในวงการสตาร์ทอัพ ก็ทำให้หลายเจ้าเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการออกแบบมากขึ้น โดยเหตุผลง่ายๆ ก็คือเพราะพวกเขาอยากจะให้ผู้บริโภค "รู้สึกถึงผลิตภัณฑ์ของพวกเขาได้ลึกซึ้งขึ้น เช่นทุกวันนี้ผู้คนไม่ได้แค่คิดว่า "เราจะออกไปซื้อรถสักคันนะแต่พวกเขามีความต้องการ (จากรถที่เฉพาะเจาะจงกว่านั้นมาก เช่นว่า ฉันอยากได้รถที่พอดีกับงบประมาณ อยากได้รถที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้พอดิบพอดี อยากได้ความรู้สึกที่ใช่เมื่อเขาเป็นเจ้าของรถคันนั้น ฯลฯ  ผู้คนกำลังมองหา 'คุณค่าที่เพิ่มเข้ามาซึ่งจะต้องสะท้อนตัวตนของพวกเขาได้อย่างดีที่สุด

งานออกแบบดีไซน์

เช่นเดียวกันกับสินค้าเทคโนโลยีอื่นๆ ในโลกปัจจุบัน ที่ผู้บริโภคต่างก็มีความคาดหวังว่าเจ้าของธุรกิจหรือสตาร์ทอัพจะต้องเข้าใจแล้วว่าพวกเขามีความต้องการอะไร  นอกจากนั้นยังคาดหวังต่อไปด้วยว่าพวกเขาจะสามารถซื้อและใช้สินค้าเหล่านั้นได้ 'ทันทีโดยไม่ต้องอ่าน 'คู่มืออีกต่อไป  ซึ่งหากธุรกิจใดสามารถจะประยุกต์งานออกแบบเข้าเป็นส่วนหนึ่งของโลกเทคโนโลยีได้อย่างสมบูรณ์ งานออกแบบก็จะเริ่มทำหน้าที่ของมัน 'อย่างล่องหนในรูปแบบของฟังก์ชั่นการใช้งาน ซึ่งแม้ว่าเหล่าผู้บริโภคจะมองไม่เห็นถึง 'การออกแบบนี้ด้วยตาเปล่า แต่พวกเขาก็จะ'รู้สึกถึงมันได้อย่างแน่นอน


ขับเคลื่อนโดย Blogger.